การประสานงาน (Coordinating) หมายถึง การจัดระเบียบวิธีการทำงานเพื่อให้งานและหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ร่วมมือปฏิบัติเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน ขัดแย้งหรือก้าวก่ายหน้าที่กัน ทั้งนี้เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และนโยบายขององค์การนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ
การประสานงานเป็นการประสมประสานระหว่างทรัพยากรที่นำมาเป็นปัจจัยการผลิต
(Input) สั่งเข้าไปในกระบวนการดำเนินงาน
(Process) แล้วจะได้ผลผลิตออกมา
(Output) อย่างมีประสิทธิภาพดังภาพที่ 13.1 การประสานงานอาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งรูปแบบที่เป็นทางการและรูปแบบที่ไม่เป็นทางการก็ได้ ลักษณะของการประสานงานภายในองค์การถือได้ว่ามีการ
ประสานงานอยู่ 3 ระดับ คือ การประสานงานระหว่างผู้บังคับบัญชามายังผู้ใต้บังคับบัญชา
ประสานงานอยู่ 3 ระดับ คือ การประสานงานระหว่างผู้บังคับบัญชามายังผู้ใต้บังคับบัญชา
(Top down) การประสานงานระหว่างผู้ใต้บังคับบัญชามายังผู้บังคับบัญชา
(Bottom up) โดยการประสานงานทั้ง 2 ประเภทนี้ถือเป็นการประสานงานแนวดิ่ง (Vertical) แต่ถ้าหากเป็นการประสานงานของพนักงานระดับเดียวกัน ถือได้ว่าเป็นการประสานงานในแนวนอนหรือแนวราบ
(Horizontal) แต่ถ้าเป็นการประสานงานกับภายนอกองค์การธุรกิจ จะต้องติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาล ลูกค้า สังคม คู่แข่งขัน ฯลฯ
ข้อปัจจัยการผลิต | กระบวนการดำเนินงาน | ผลิตผล | ||
คน | การวางแผน | สินค้า | ||
เงินทุน | การจัดองค์การ | บริการที่องค์การต้องการ | ||
วัสดุอุปกรณ์ | การจัดคนเข้าทำงาน | ฯลฯ | ||
เทคโนโลยี | การสั่งการ | |||
การควบคุม |
ตารางแสดงความสอดคล้องของกระบวนการบริหาร
สิ่งสำคัญเบื้องต้นของการประสานงาน
1. การจัดวางหน่วยงานที่ง่ายและเหมาะสม
2. การมีโครงการและนโยบายอันสอดคล้องกัน
3. การมีวิธีติดต่องานภายในองค์การที่ทำไว้ดี
4. มีเหตุที่ช่วยให้มีการประสานงานโดยสมัครใจ
5. การประสานงานโดยวิธีควบคุม
1. การจัดวางหน่วยงานที่ง่าย
(Simplified Organization)
ในองค์การธุรกิจทั่วไปแล้ว การจัดวางหน่วยงานควรคำนึงถึง
ก.การแบ่งแผนกซึ่งช่วยในการประสานงาน กล่าวคือ การจัดแผนกต่าง ๆ บางแผนกมีความจำเป็นต้องประสานกันควรอยู่ใกล้ชิดกันเนื่องจากการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้ที่ทำงานอันเกี่ยวเนื่องอย่างใกล้ชิดกันมากขึ้น
ข. การแบ่งตามหน้าที่
ค. การจัดวางรูปงานและระเบียบการที่ชัดแจ้งแก่ทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้อง
2.การมีโครงการและนโยบายอันสอดคล้องต้องกัน
(Harmonized Program and Policies)
3.การมีวิธีติดต่องานภายในองค์การที่ทำไว้ดี
(Well – Designed Methods of Communication)
เครื่องมือที่ช่วยในการติดต่อส่งข่าวคราวละเอียด ได้แก่
ก. แบบฟอร์มในการปฏิบัติงาน (Working Papers)
ข. รายงานเป็นหนังสือ (Written report)
ค. เครื่องมือวิทยาศาสตร์ในการติดต่องาน เช่น ระบบการติดต่อภายในโรงพิมพ์ เป็นต้น
4.เหตุที่ช่วยให้มีการประสานงานโดยสมัครใจ
(Aids to Voluntary Coordination)
การประสานงานส่วนมากมักจะเกิดขึ้นจากการร่วมมือโดยสมัครใจของพนักงาน
5. ประสานงานโดยวิธีควบคุม
(Coordination through Supervision)
หัวหน้างานมีหน้าที่จะต้องคอยเฝ้าดูการดำเนินปฏิบัติงานต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างสอดคล้องและ จะต้องใช้วิธีประเมินผลการปฏิบัติงานทุกระยะจะได้ทราบข้อบกพร่องหาทางแก้ไขให้การปฏิบัติงานถูกต้องยิ่งขึ้น
ความสำคัญของการประสานงาน
1. การประสานงานเป็นกระบวนการในการบริหาร
2. การประสานงานเป็นระเบียบธรรมเนียมในการบริหารงาน
3. การประสานงานเป็นหน้าที่ของนักบริหารหรือหัวหน้างาน
ประเภทของการประสานงานแบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ
1.การประสานงานภายในองค์การและภายนอกองค์การ การประสานงานภายในองค์การ หมายถึง การประสานงานภายในหน่วยงานหรือองค์การนั้น ๆ ส่วนการประสานงานภายนอกองค์การเป็นการประสานงานระหว่างหน่วยงานหรือการติดต่อกับบุคลลภายนอกต่าง ๆ
2.การประสานงานในแนวดิ่ง และการประสานงานในแนวราบ การประสานงานในแนวดิ่ง หมายถึง การประสานงานจากผู้บังคับบัญชามาสู่ผู้ใต้บังคับบัญชา (Top down) และการประสานงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาไปยัง
ผู้บังคับบัญชา (Bottom up) ส่วนการประสานงานในแนวราบ หมายถึง การประสานงานในระดับเดียวกัน
เทคนิคการประสานงาน (Techniques Coordination)
1.จัดให้มีระบบการติดต่อสื่อสารทั้งภายในหน่วยงานและภายนอกหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ
2.การกำหนดอำนาจหน้าที่และตำแหน่งงานอย่างชัดเจน
3.การสั่งการและการมอบหมายอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ
4.การใช้คณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ประสานงานโดยเฉพาะ
การประสานงานภายในองค์การ
5.การจัดให้มีการประสานงานระหว่างพนักงานในองค์การ
6.การจัดให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา
7.การติดตามผล
อุปสรรคของการประสานงาน
1.การขาดความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้วยกันจะกลายเป็นสาเหตุทำให้การติดต่อประสานงาน
ที่ควรดำเนินไปด้วยดี ไม่สามารถกระทำได้
2.การขาดผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหารที่มีความสามารถ
3.การปฏิบัติงานไม่มีแผน ซึ่งเป็นการยากที่จะให้บุคคลอื่น ๆ
ทราบวัตถุประสงค์และวิธีการในการทำงาน
4.การก้าวก่ายหน้าที่การงาน
5.การขาดการติดต่อสื่อสารที่ดีย่อมทำให้การทำงานเป็นระบบที่ดี
ของความร่วมมือขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
6.การขาดการนิเทศงานที่ดี
7.ความแตกต่างกันในสภาพและสิ่งแวดล้อม
8.การดำเนินนโยบายต่างกันเป็นอุปสรรคต่อการประสานงาน
9.ประสิทธิภาพของหน่วยงานต่างกันจะเป็นการยากที่จะก่อให้เกิด
มีความร่วมมือและประสานงานกันเพราะแสดงว่ามีฝีมือคนละชั้น
10.การทำหน้าที่ความรับผิดชอบและอำนาจไม่ชัดแจ้งทำให้
10.การทำหน้าที่ความรับผิดชอบและอำนาจไม่ชัดแจ้งทำให้
ผู้ปฏิบัติงานเกิดความกังวลใจและอาจไปก้าวก่ายงานของบุคคลอื่นก็ได้
11.ระยะทางติดต่อห่างไกลกัน
12.เทคนิคและวิธีการปฏิบัติงานในแต่ละหน่วยงานแตกต่างกัน
11.ระยะทางติดต่อห่างไกลกัน
12.เทคนิคและวิธีการปฏิบัติงานในแต่ละหน่วยงานแตกต่างกัน
เนื่องมาจากการกุมอำนาจหรือการกระจายอำนาจมากเกินไป
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการประสานงานที่ดี
1.ต้องมีระบบการติดต่อสื่อสารที่ดี
2.ความร่วมมือของผู้ปฏิบัติงานเองและต้องเป็นไปโดยอัตโนมัติ
3.สร้างขวัญและกำลังใจของคนในองค์การ
4.ผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำ ควรสั่งงานโดยใช้หลักมนุษยสัมพันธ์ตามโอกาสที่ควรจะเป็น
5.มีการประชุม / ปรึกษาหารือ
6.การฝึกอบรมทำให้ผู้รับการอบรมทราบถึงนโยบายใหม่ ๆ และวิธีการปฏิบัติงาน
7.มีการวางแผนงานที่ดีซึ่งจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานทราบว่าจะต้องปฏิบัติงานอะไร
ประโยชน์ของการประสานงาน
1.ช่วยให้การทำงานบรรลุเป้าหมายโดยราบรื่นและรวดเร็ว
2.ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานให้น้อยลงและสามารถเพิ่มผลผลิตของงานมากขึ้น
3.ช่วยประหยัดเงิน วัสดุ และสิ่งของในการดำเนินงาน
4.ช่วยให้ทุกคนทุกฝ่ายมีความเข้าใจซาบซึ้งถึงนโยบายและวัตถุประสงค์ขององค์การได้ดียิ่งขึ้น อันจะเป็นอุปกรณ์ให้การบริหารงานประสบผลสำเร็จด้วยดี
5.ช่วยสร้างความสามัคคีธรรมในหมู่คณะและความเข้าใจอันดี
6.ช่วยเสริมสร้างขวัญในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานให้ดีขึ้น
7.ช่วยลดอันตรายจากการทำงานให้น้อยลง
8.ช่วยลดข้อขัดแย้งในการทำงาน
9.ช่วยให้มีการปฏิบัติงานเป็นหมู่คณะ (Teamwork)
เป็นการช่วยเพิ่มผลสำเร็จของงานให้มากขึ้น
10.ช่วยให้เกิดความคิดใหม่ ๆ และมีการปรับปรุงอยู่เสมอ
11.ช่วยกันป้องกันการทำงานซ้ำซ้อนกันอันทำให้ไม่ประหยัด
12.ช่วยให้มีการดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อแนะนำในการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นเพื่อการประสานงาน
ข้อแนะนำในการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นเพื่อการประสานงาน
1.จงพยายามผูกมิตรกับเขาในโอกาสแรกเพื่อสร้างความประทับใจ
2.พึงหลีกเลี่ยงการนินทาว่าร้ายหัวหน้าคนงานอื่น ๆ เพราะอย่างไรเสียคงจะต้องรู้ถึงหูเขาจนได้
3.ถ้าเราผิดพลาดก็ไม่ควรป้ายความผิดพลาดนั้นให้คนอื่น
4.พึงสรรเสริญหัวหน้างานคนอื่นเมื่อเขาทำความดี
5.จงช่วยเขาเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน
6.เมื่อมีงานเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นควรแจ้งให้เขาทราบ
7.รับฟังคำแนะนำของเขา
8.ความเห็นของคนอื่น แม้เราจะไม่เห็นด้วยก็ควรฟัง
หลักการรายงานผล (Reporting)สำคัญอย่างไร
1.1 เพื่อฝึกฝนให้นักศึกษามีนิสัยรักการเขียน
1.2 เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษามีความรู้ ความคิดริเริ่ม รู้จักแสดงความคิดอย่างมีเหตุผล
1.3 เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
1.4 เพื่อฝึกให้มีความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ อย่างถูกต้อง
1.5 เพื่อส่งเสริมและฝึกทักษะทางภาษา
1.6 เพื่อปูพื้นฐานการศึกษาค้นคว้าและการเขียนรายงานสำหรับการศึกษาในขั้นสูงขึ้น
ประโยชน์ของการเตรียมโสตทัศนูปกรณ์และสื่อสำหรับใช้ในการนำเสนอ จะเพิ่มอรรถรสในการ บรรยายรายงานด้วยวาจาเพราะสามารถช่วยในเรื่อง ดังนี้
1. ผู้รับรายงานสามารถเห็นและคิดได้โดยตรงในทันที
2. มีความกระจ่างชัดและสามารถเน้นจุดสำคัญเป็นพิเศษได้ตรงจุด
3. ช่วยในการสรุปประเด็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น